วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ความรักต่างแดน
เดือนแห่งความรักนี้ คงไม่สายนะที่จะมีความรักมาเล่าสู่กันฟัง ความรักต่างแดนเป็นความรักที่ผมได้ไปเที่ยวที่ประเทศเขมร มีไกด์นำเที่ยวเล่าเรื่องของการที่จะมีการแต่งงานเกิดขึ้นในครั้งก่อนให้ฟัง ได้ฟังแล้วมีความประทับใจมากในเรื่องของความรัก
ความรักมักจะมีการพิสูจน์ว่านั้นคือรักแท้ใหม คนในอดีตมักจะมีรูปแบบการปฏิบัติมายามนาน
เริ่มต้นที่จะแต่งาน ผ่ายหญิงจะต้องที่พิธีเข้าร่ม ก่อนเป็น เวลาแล้วแต่กำหนดจะเป็น หนึ่งเดือน หรือสามเดือน หลักจะนั้นจะเป็นการพิธีออกจากร่ม เพื่อประกาศให้ทราบว่าพร้อมแล้วที่จะแต่งงาน
สำหรับชายหนุ่มที่จะต้องการรักและจะแต่งงานกับสาวผู้นี้ ผ่ายชายจะต้องมาใช้ชีวิตเป็นคนใช้ในครอบครัวของฝ่ายหญิงก่อนเป็นเวลา สามปี ใช่ครับเป็นเวลา สามปี ทำทุกอย่าง แต่ไม่ได้นอนกับลูกสาวเขานะ
เมื่อถึงเวลาสามปีที่ชายหนุ่มได้พิสูจน์ตัวเองทำงานเป็นเหมือนทาสให้กับครอบครัวแล้วจนฝ่ายหญิงพอใจ จะต้องทำการไปติดประกาศที่ หน้า อบต. 45 วันกัน ว่าจะมีบุคคลที่สามมาคัดค้านหรือไม่ ถ้ามีบุคคลที่สามมาคัดค้านพิธีแต่งงานจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าไม่มีก็จะมีพิธีแต่งานกันเกิดขึ้น
ทุกวันนี้ เหลือแต่เพียงการนำภาพไปประกาศหน้า อบต. 45 วันก่อนเท่านั้น
กระบวนการข้างต้นนี้เป็นสิ่งที่ผมมองว่ามีความคลาดสิกครับเพราะจะเป็นสิ่งพิสูจน์ความรักว่า รักแท้ใหม คนในดอีตใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า รักแท้หรือเปล่า ใช้ครับ รักแท้จะรอได้ เมื่อรอได้ ก็จะเป็นความรักที่ทั้งสองคนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันตลอดชีวิต ครับ
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ความรัก
ความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนมีแต่บางคนไม่รู้จักความรักจึงปล่อยให้กลายเป็นอย่างอื่น
ความรักมีหลายอยู่หลายแบบ ความรักที่มีต่อคนที่เรารัก ความรักที่มีต่อครอบครัว ความรักที่มีต่องานหรือหน้าที่ และที่สำคัญคือรักตัวเอง
ในเรื่องความรักที่จะพูดในวันนี้คือ การรักตัวเองและรักในงานหรือหน้าที่ การตัวเราเองเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเราจะดูแลตัวเราเองไม่ทำร้ายตัวเราเองแล้วเราจะเข้าใจว่าเราจะไม่ทำร้ายใคร การรักตัวเราเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่เป็นการเข้าใจในคุณค่า ถ้าเราทุกๆคนรักตัวเราเองคงไม่มีใครทำร้ายใคร ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่บางคนกลับปล่อยให้ตัวเองมีแต่สิ่งที่ไม่ดีหรือทำร้ายตัวเอง ที่สำคัญคือปล่อยให้ตัวเองเครียด ใช่ครับผมกำลังจะบอกว่ามีหลายสิ่งครับที่ไม่ได้ดั่งใจ หรือมีหลายคนที่จะทำเราให้พัง แต่มีเพียงเราเท่านั้นครับที่จะปล่อยให้ตัวเราเองเสียใจกับมัน หรือเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องธรรมดา การเข้าใจตนเองเป็นสิ่งที่เราทุกๆคนต้องทำไม่ใช่รู้อย่างอืน ความสุขเล็กๆควรมีทุกวันไม่ใช่ต้องรอให้สมหวังที่ตั้งไว้จนบางครั้งอาจจะไม่พบกับความสุขตลอดชีวิต
ในอีกเรื่องคืองานหรือหน้าที่ความรักแตกต่างและหนือกว่าสิ่งอื่นใด ในวันที่เรามีความรักต่อสิ่งที่ทำแน่นอนครับงานนั้นจะออกมาดี ไม่มีงานที่ทำยากหรอครับมีแต่สิ่งที่ไม่อย่างทำ สิ่งที่งานมอบให้เป็นเงินความภูมิใจ และอย่างอื่นมากมายตามมาเป็นคุณภาพชีวิตของคนที่เรารัก ครอบครัว และหลายสิ่ง แต่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผลงานออกมาดี
สิ่งหนึ่งสุดท้ายที่ต้องทำความเข้าใจคือความเข้มแข็ง ถ้าเป็นผู้ชายการเสียน้ำตาก็เสียได้ครับ แต่จะไม่พุมเพือย เพราะน้ำตาเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา การร้องให้บนที่สาธารณะคงไม่งามเท่าในรถส่วนตัว ในบางครั้งถ้าเราเข้มแข็งพอจะเป็นสิ่งที่ทำความเข้าใจได้ว่า ความเศร้าก็เหมือนกับความสุขเนียละมีระยะเวลา เป็นกำลังใจให้ครับสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ความรักจะสร้างสิ่งดีๆ สิ่งดีจะสร้างความสุข ความรักไม่เคยทำร้ายใครครับ มีแต่คนเราที่หัวใจไม่มีความรักทำร้ายกัน
วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
เข้าใจทุกข์ ก็มีความสุข
การเข้าใจความทุกข์จะมีความสุขจริงใหม ในความคิดทั่วไปจะคิดว่าทุกคืออาการอย่างหนึ่งที่เศร้าใจ แต่สมสงสัยว่าทำไม่พระพุทธเจ้าเราสอนแต่เรื่อง ทุกข์จัง ก็เลยศึกษาอยู่ระยะหนึ่งจึงได้คำตอบ คำว่าทุกข์ในพระพุทธศาสนา อยู่ในอริยสัจ 4 มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ทุกข์ในอริยสัจ4 ไม่ใช่ความรู้สึกของเราที่เป็นทุกข์ หรือเศร้าใจ แต่พระพุทธเจ้าได้บอกว่า สิ่งใดที่มีการเกิดปรากฎสิ่งนั้นยอมเดินทางไปสู่การเสื่อมปรากฎ นี้เรียกว่า ทุกข์ ใช่แล้วครับ นั้นมหายถึงทุกสิ่งอย่างในโลกใบนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถาณที่ แม้กระทั้งตัวเรา ยอมมีการเปลี่ยนแปลงไปครับ การเปลี่ยนแปลงไปคือความหมายของคำว่า ทุกข์ในพระพุทธศาสนาครับ ยกตัวอย่างเช่น แก้วน้ำก็เป็นทุก แน่นอนครับแก้วน้ำไม่มีความรู้สึกครับ แต่แก้วน้ำก็เป็นทุกข์ อธิบายอย่างนี้ว่า แต่ก่อนที่จะมาเป็นแก้วมันเป็นทรายที่ผ่านการหลอมแล้วกลายเป็นแก้ว แก้วเมื่อถูกนำมาใช้งาน ร้อยปี พันปีแก้วน้ำก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือแตกสลายไป แก้วน้ำก็เป็นทุกข์ เพราะแก้วน้ำคือสิ่งที่มีการเกิดปรากฎ อาการเสื่อมและแตกสลาย คืออาการทุกข์ ครับ
ยกอีกตัวอย่างเช่นความรู้สึกสุขของเราก็เป็นทุกข์ ความรู้สึกสุขของเราก็มีการเกิดปรากฎเช่นกัน คำถามมีอยู่ว่าคงไม่มีใครสุขแช่ตลอดไปทั้งวันนะครับ แน่นอนว่ามีการหลายไป ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่าเรามีเงินร้อยล้านเราก็คิดว่าเราจะซื้อของต่างๆมากมาย แน่นอนครับในช่วงที่เราคิดเรามีความสุข แต่เมื่อเราหยุดคิดเราก็มีความรู้สึกใหม่ ใช่ครับความรู้สึกนั้นมีการเสื่อมแล้วดับไป เป็นทุกข์ครับ เช่นเดียวกับความรู้สึกเศร้าใจของเราครับ อาการสุขทุกข์และเฉยๆพระพุทธเจ้าเรียกว่า เวทนาครับ เวทนาก็เป็นทุกข์ เราคิดไปในอนาคตพระพุทธเจ้าเรียกว่าสังขาร สังขารก็เป็นทุกข์ เราคิดไปในอดีตพระพุทธเจ้าเรียกว่าสัญญา ใช่ครับสัญญาก็เป็นทุกข์ เข้าใจแล้วใช่ใหม่ครับว่าทุกข์ในพระพุทธศาสนาไม่ใช่ ความรู้สึกเศร้าใจหรือทุกข์ใจ
ยกตัวอย่างอีกเรื่องละกัน ว่า วันนี้เราพอใจในใครคนใดคนหนึ่ง พอคนคนนั้นเปลี่ยนไปเราก็มีความรู้สึกทุกข์บางคนถึงกลับทำร้ายตัวเองและตั้งคำถามว่าทำไม่ แน่นอนครับคนเราทุกคนคือสิ่งที่เกิดปรากฎ แน่นอนครับคนเรามีการเปลี่ยนแปลงคือการเดินทางไปสู่ความเสื่อม แล้วแตกสลายไป
สรุปพระพุทธเจ้าเราสอนเรื่องธรรมดาว่าทุกสิ่งในโลกไม่ใช่ของเราครับ ถ้าเราเข้าใจว่าทุกสิ่งในโลกไม่ใช่ของเรา ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ความรู้สึก แม้กระทั้งตัวเรา เหตุผลเพราะว่าเราบังคับไม่ได้สักอย่าง ถ้าเราเข้าใจขนาดนี้ เราจะเห็นเพี่ยงเรื่องธรรมดา แล้วเราจะมีความทุกข์กับอะไรละ
ใช่ครับที่ผมจะพูดว่าถ้าเราเข้าใจความสุขเราจะมีความสุขจริงๆไม่ไปวิ่งหาความสุขปลอมๆเช่นการไปกินเหล้าแล้วมีความสุขพอเหล้าหมดเราก็หาที่ใหม่ไม่มีที่สิ้นสุดถ้าวันหนึ่งขาดเหล้าละความสุขจะอยู่ที่ใหน เป็นต้น
วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ความสุขเกิดจากอะไร
มีหลายคนบอกว่าความสุขเกิดจากคำว่าพอ แต่ผมมาคิดว่า คำว่าพอถ้าอยู่กับเราตลอดไปก็จะสุขใจนะ แต่นะวันนี้ เราดูอะไรมากมาย เราไปอะไรมากมาย เราเล่นอะไรมากมาย แน่นอนครับทุกๆกิจกรรมเราเห็นคนอื่นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มากกว่าเรา เราเลยเกิดความอยาก ใช่ครับความอยาก ความอยากทำให้เราลืมคำว่าพอ ทำให้เราทำงานมากขึ้น ทำสิ่งต่างๆมากขึ้น จนลืมไปว่าเกิดมามีความสุข ถ้าคำว่าพอจะมีกับเราไม่รู้ว่าตอนให้ บางคนอาจจะบอกว่าต้องมีสิ่งที่พอใจเสียก่อน จึงทำทุกสิ่ง เพื่อให้ได้มาจนลืมความความสุขเล็กจนกลายเป็นไม่มีความสุขอีกเลย
มีคำถามว่าให้เรามีทุกสิ่งก่อนใช่ใหม่ถึงจะมีความสุข
สำหรับผมแล้วความสุขที่มีในทุกๆวัน ไม่ได้เกิดจากคำว่าพอ ใช่ครับไม่ได้เกิดจากคำว่า พอ แต่สำหรับผมเกิดจากคำว่า เข้าใจ การเข้าใจความสุขครับ โดยการเรียนรู้หลายๆอย่างและที่สำคัญต้องฝึกครับ ใช่ครับต้องฝึกให้เป็นนิสัย เช่นการคิดบวก มีหลายอย่างครับที่เราสามารถเข้าใจได้ เช่นความสุขเล็กๆในทุกๆวัน การมีความฝันหนึ่งเดียวที่ชัดเจน เรียนรู้ธรรมจริงๆของพระพุทธเจ้า จะเป็นการที่เราเข้าใจธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าสอนเราว่า สิ่งที่มีการเกิดปรากฎ ย่อมเดินทางไปสู่การเสื่อมปรากฎ เป็นอย่างนี้ แน่นอนครับเราเข้าใจ แต่การเข้าใจเรามาฝึกคิด ใช่ครับ ถ้าวันนี้มีสิ่งที่ไม่เป็นไปอย่างคิด เราจะเศร้าใจอยู่ให้ ถ้าคำตอบว่าเฉอยๆก็แปลว่า เราเข้าใจธรรมชาติ การทำสิ่งต่างๆแล้วประสบความสำเร็จมากมายมายเกิดขึ้นจากการที่เราสร้างต้นเหตุที่ถูกต้องครับไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ
ในวันนี้เราเศร้าใจ ถามตัวเราเองชิ ทำไมเราทำร้ายตัวเราเองด้วยเรื่องโง่อยู่อีก
สำหรับผมความสุขเกิดจากกาเข้าใจความสุข จึงต้องคิดถามตัวเราว่าชอบทำอะไรเล็กๆที่สามารถทำแล้วมีความสุขในทุกวัน เพราะความสุขจากตัวเราจะเป็นความสุขที่ดีที่สุดครับ
เหมือนตอนที่เรายังเด็กครับเราได้ความสุขจากคนรอบข้างมากมายเพื่อที่จะเรียนรู้ว่าเราก็มีความสุขเพื่อที่จะให้คนรอบข้างได้มากมายเช่นกันครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)